DNA ของ Oakley
Images/Blog/4394964-DNA Oakley.jpg
เขียนโดย sportplanetoutdoorshop เมื่อ Wed 12 Sep, 2018
Like

บทที่1

DNA ของ OAKLEY

อะไรคือความเป็น OAKLEY?

Oakley สร้างมุมมองใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับโลก ในฐานะผู้นำด้านวัฒนธรรมการออกแบบ เทคโนโลยีและ ประสบการณ์

  • -  ในระดับโลก เราเชื่อมโยงผู้คนในทุก ช่วงอายุ ทุกวัฒนธรรมทุกศาสนาด้วยมุมมองที่ครอบคลุมทั่วโลก

  • -  ผู้นำวัฒนธรรมเรามีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนผ่านการบริการลูกค้าคู่ค่าและพนักงานของเรา

  • -  ดีไซน์มากกว่าการออกแบบสินค้าหากแต่มองลึกลงไปถึงวิธีการออกแบบวิธีการผลิต การจัดการและการสื่อสาร

    ผ่านรูปลักษณ์

  • -  เทคโนโลยี เราภาคภูมิใจในเทคโนโลยีของเราซึ่งสะท้อนผ่านทุกผลิตภัณฑ์ที่เราเคยผลิตและนำออกจำหน่าย

  • -  ประสบการณ์ ทุกประสบการณ์ที่เราสั่งสมผ่านพนักงาน ลูกค้า และนักกีฬาระดับมืออาชีพ ล้วนส่งผ่านไปยัง

    ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่เราสร้าง

    แบรนด์คือ วัฒนธรรม , วัฒนธรรมคือ แบรนด์

    สิ่งที่อยู่ภายในตัวเรา สะท้อนออกมาสู่ภายนอก ที่ Oakley เราเริ่มพัฒนาสินค้าที่เยี่ยมยอดออกมาสู่ตลาด นั่นก็เพราะเราเองก็ต้องการใช้มันด้วยเช่นกันเช่นเดียวกับนักกีฬาอาชีพนักตกปลาผู้จริงจังนักเซิร์ฟบอร์ดผู้ไม่ย่อท้อ หรือแฟนๆตัวยงของผู้คนเหล่านี้และเราเองคือนักวิจารณ์ตัวยงในสินค้าของเราเองอีกด้วย

    เราออกแบบสินค้าด้วยจุดประสงค์เหล่านี้ด้วยความคิดที่ท้าทายต่อสิ่งที่จำเจ ธรรมดาและน่าเบื่อ เพื่อสร้างสรรค์

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ไม่หมือนใคร สำนักงานใหญ่ของเราที่แคลิฟอร์เนีย เป็นตัวอย่างที่ดี ว่าเราไม่เคยกลัวที่จะแตกต่าง โดยเฉพาะเมื่อมันช่วยตอกย้ำว่าตัวเราคือใคร.

บทที่2

ทศวรรษแห่งนวัตกรรม

นับตั้งแต่ปี 1975 ทศวรรษแห่ง การค้นพบได้นำผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเข้าสู่ตลาด ,วิทยาศาสตร์หลอม รวมเข้ากับ ศิลปะ และนำมาซึ่ง การออกแบบที่มีจุดหมายไม่สิ้นสุด

“ทุกอย่างถูกทำให้ดีขึ้นได้อีกเสมอ”

คำกล่าวด้านบนนั้นเป็นของ Jim Jannard นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ผู้เริ่มตั้งคำถามต่อมาตรฐานของสิ่งต่างๆในยุคนั้นในปี ค..1975 จิมได้เริ่มก่อตั้งโอ๊คลี่ย์ขึ้น ด้วยเงินทุนเริ่มแรกเพียง 300 เหรียญด้วยไอเดียง่ายๆคือค้นหาและสร้างสิ่งที่ใช้งานได้ดีกว่าเดิม

ในห้องทดลองที่ดัดแปลงจากที่จอดรถนั่นเองจิมได้พัฒนายางหุ้มที่ปั่นจักรยานแบบใหม่ด้วยการออกแบบที่ยอดเยี่ยม วัสดุแบบใหม่ที่ให้การยึดจับที่เยี่ยมยอด แม้ในเวลาที่มีเหงื่อออกมาก

ผู้ปฏิวัติวงการแว่นกันแดด

จิมเริ่มต้นยกระดับแว่นกันแดดในสมัยนั้นด้วยแว่นรุ่น EyeshadeTM แว่นกันแดดรุ่นแรกสำหรับนักกีฬา และทศวรรษแห่งการค้นพบ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอีกมากมาย การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างศิลปะ และเทคโนโลยี สิทธิบัตรกว่า 1,000 ฉบับคือเครื่องยืนยันถึงทศวรรษ แห่งการค้นพบนี้

Jim Jannard

Oakley Timeline

Oakley มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานนั่นหมายถึงประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาตลอดเวลาหลายทศวรรษเริ่มจาก นักคิดผู้มีความคิดก้าวหน้า และรักวิทยาศาสตร์อีกทั้งยัง รักสนุก อีกด้วยชื่อ Oakley จึงมีที่มาจากสุนัข ตัวโปรดของเขานั่นเองต่อจากนี้คือประวัติความเป็นมาโดยละเอียดของ Oakley ผ่านความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของเหล่านักคิด Mad Science บ้าบิ่นแต่จริงจัง ในความเป็นวิทยาศาสตร์ คือนิยามความเป็นตัวตนของ Oakley ในยุคเริ่มแรก

ปี 1975

GRIP ในยุค70 ผลิตภัณฑ์แรกของ Oakley คือ Handgrips ของรถจักรยานเป็นหลอดยางโค้งมนซึ่งออกแบบมาให้ สะดวกสบายและไม่ลื่น เมื่อเปียกซึ่งวัสดุที่ใช้คือ Unobtainium ซึ่งออกแบบมาให้มีความเหนียวเมื่อเปียก ซึ่งต่อมาได้รับรางวัล Handgrips แบบใหม่จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำทั่วโลก
Grip II ออกมาในปี 1978

ปี 1980

O Frame MX GOGGLE ในวันแรกของ MX จุดประสงค์ของมันคือเป็นแว่นตา ซึ่ง Oakley ได้ใช้เวลาพัฒนาหลายปี ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมอง ซึ่งในที่สุด ก็ได้ แว่นตาที่สมบูรณ์แบบเพื่อความชัดเจนในการมอง จำหน่ายราคา 40$ Grip แบบใหม่ในชื่อ F1ออกมาในปี1981และในปี1982Grip ที่มีขนาดเล็กกว่าในชื่อ B1-ก็ออกสู่ตลาด

ปี 1983

ในเดือนกันยายน ปี 1983 Oakley กำเนิด GOGGLE แบบ L Frame ที่สามารถสวมทับ แว่นตาได้ และ GOGGLE ขยายไปสู่ GOGGLE สำหรับใส่เลนส์  ในแบบ O เฟรม Pro เฟรม และ L เฟรม MX ในเดือนธันวาคม

ปี 1984

ในเดือน มกราคมในช่วงที่แว่นกันแดดเป็นอุปกรณ์เสริมทั่วไป Oakley ตัดสินใจที่จะบูรณาการความคิดของเขาใหม่ ด้วยแนวความคิดว่า แว่นตาแบบใหม่นั้นต้องใส่แล้วปลอดภัย ถึงจะมีเหงื่อความคมชัดและทัศนะวิสัยต้องไม่หายไป ซึ่งในปี1984 จึงผลิตออกมาเป็นผลสำเร็จในชื่อ Eyeshades จำหน่าย16สีในราคา 60และกลายเป็นอุปกรณ์ สำคัญในการขับขี่ของนักแข่งในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว

Oakley Grip รุ่นสุดท้ายผลิตในปีนี้ในชื่อ OWingGrip

ปี 1985

กำเนิดแว่นตาในระบบ Blades เป็นครั้งแรกในชื่อ Blades เมื่อวัฒนธรรมของกีฬาเริ่มแพร่หลายการพัฒนา ก็มีควบคู่ไปด้วยเช่นกันสิ่งที่ทำคือการสามารถปรับแต่งแว่นกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการแข่งขัน ซึ่ง Oakley จะออกแบบให้เข้ากับเฉพาะเจ้าของผู้สวมใส่คนต่อคนซึ่งเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ขึ้นไปอีกขั้น จำหน่าย 23 สี ในราคา 64-68 $

กำเนิดแว่นกันแดดเลนส์คู่ของ Oakley เป็นรุ่นแรก ในชื่อ Frogskin จำหน่าย 23 สี ในราคา 38$-50$

Frogskin
ในปี 1986 Oakley Razor Blade ถือกำเนิด โดยลดขนาดความสูง ของเลนส์ในรุ่น Blade ลง

ปี 1989

กาเนิด Oakley Mumbo ในชื่อ V และ 67

ปี 1990

OakleyMumbo เปลี่ยนชื่อเป็น M-Frame นักกีฬาที่สวมใส่ OakleyMFrame ส่วนใหญ่จะได้รับเหรียญ มากกว่านักกีฬาที่ใส่ผลิตภัณฑ์อื่นๆซึ่งยิ่งทำให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ด้วยน้ำหนักที่เบาและไม่มีการบิดเบือนจากวิสัยทัศน์เดิม

Frogskin เจเนอเรชั่นที่ผลิตในปี1991

ปี 1992

จากผลิตภัณฑ์ที่ดีอยู่แล้ว Oakley ได้เพิ่มความท้าทายเข้าด้วย จึงทำแว่นตาที่มีน้ำหนัก เบาที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างขึ้น มาในโลก โดยยังมีความสามารถเหมือนเดิมขึ้น ได้เกิดรุ่น

Sub Zeros ขึ้นมาถือเป็นต้นกำเนิดแว่นในซีรีย์ Zero

Oakley Sub-Zero
แว่นในซีรีย์ wire ถือกำเนิด ในชื่อ E-wire

ปี 1993

M Frame Slash วางจำหน่าย และ Zero 0.1- 0.6 เข้ามาแทนที่ Sub Zeros

ปี 1994

ผลิต Eye Jacket เป็นครั้งแรก เป็นรุ่นแรกที่ออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้รูปทรงที่โค้งรับกับใบหน้าโดยที่เลนส์ยังรักษาความคมชัดของแสง และ มุมมองที่ชัดเจนแม่นยำที่สุดในโลก Raised Icon ถูกใช้เป็นโลโก้หลักครั้งแรก และเป็นโลโก้หลักของ Oakley จนถึงปัจจุบัน

Wire คอเลคชั่นขยายไปสู่วัสดุ Titanium เป็นครั้งแรกในรุ่น E-wire ในชื่อ T wire OakleyTrenchcoat ออกมาในปี1995ในรูปลักษณ์ของ EyeJacket ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ปี 1996

กรอบแว่นสายตารุ่นแรกถือกำเนิดในรุ่น E-wire คอลเลคชั่นWire ขยายออกไปอีกในชื่อรุ่น SquareWire Straight Jacket รุ่นแรก ผลิตในปีนี้ในราคา 90$

ในปลายปี 1996 Pro M Frame ถือกำเนิด M Frames ผลิต เลนส์สำหรับ Baseball, Cricket, Golf และ Tennis

ปี 1998

แว่น ในตระกลู X-Metal ถือกำเนิดขึ้น เป็นครั้งแรกในชื่อ Romeo ย้อนกลับ ไปในยคุ 90ไม่มีผู้ผลิตแว่นรายใดที่จะนำกรอบโลหะ มาผลิตแว่น เพราะจะทำให้หนักเกินไปแข็งเกินไป ไม่มีความยืดหยุ่น ซึ่ง Oakley ได้แก้ปัญหาเหล่านั้นโดยการใช้ โลหะไทเทเนียม และการออกแบบให้สามารถซับแรงได้ดียิ่งขึ้นซึ่ง Oakley ได้ทดสอบใช้โลหะที่มีอยู่บนโลก และได้เลือกโลหะ X METAL มาผลิตเป็นโครงแว่นตา

ผลิตแว่นในตระกลู Five เป็นครั้งแรกOakleyTopcoat ผลิตในปีนี้เช่นกัน

Oakley Topcoat

เมื่อถึงระยะหนึ่ง ที่การแข่งขันของกีฬาสูงขึ้น เหงื่อและความเร็วยังเป็นอุปสรรคให้กับอุปกรณ์ของ Oakley แต่การ พัฒนาก็ยังไม่สิ้นสุด Oakley จึงได้พัฒนากรอบแว่น และเลนท์แบบใหม่ซึ่ง มีช่องระบายความร้อนเพื่อลดเหงื่อให้นักกีฬาและ ลดฝ้าที่เกิดขึ้นจากเหงื่อของนักกีฬา ในชื่อ Racing Jacket Racing Jacket

ในปีนี้ยังมีแว่นในตระกลู X-Metal ออกมาหนึ่งรุ่นคือ OakleyMars

Oakley Mars Minute รุ่นแรกผลิตในปีนี้พร้อมกับแว่นรุ่น Moon ที่มีรูปแบบเดียวกันกับ Mars แต่ใช้วัสดุ O-Matter Oakley ผลิตนาฬการุ่นแรกในชื่อรุ่นTimeBomb

Oakley Time Bomb

ปี 1999

แว่นกันแดดที่ออกมาในปีนี้ก็มีชื่อต่อท้ายด้วยคำว่า New ไม่ว่าจะเป็น EyeJacket,StraightJacket,MFrame โลโก้แบบ TrueMetalIcon ถูกใส่เข้าไปแทนที่ RaisedIcons แว่นตระกูลWire เพิ่มแว่นชื่อ OO เข้ามาโดยได้แรงบันดาลใจ จาก Michael Jordan

แว่นในตระกูล X-Metalเพิ่มรุ่น X-MetalXXเข้ามาในไลน์ Julietก็ผลิตในปีนี้เช่นกัน

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายรุ่นแรกถูกผลิตในปีนี้ นาฬกาในสไตล์ TimeBomb แต่มีขนาดเล็กกว่าออกวางจำหน่ายในชื่อรุ่น the Icon และ Icon Small

ปี 2000

บทที่ 3 ศตวรรษใหม่

ยังคงเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงในด้านการออกแบบที่ต่อยอดจากปีก่อนหน้านี้พัฒนาการในแว่นตระกลู Wire รุ่นสองเสร็จสมบูรณ์ด้วยการให้กำเนิดแว่น AWire ที่มาพร้อมกับขาสปริงนอกจากนั้นยังมี CWire2.0 ที่มาพร้อมขาสปริงเช่นกัน

แว่น ในรุ่น OOframes เพิ่มขึ้นมาอีก รุ่นโดยมีเลนส์ทรง AWire และ EWireเป็นต้นแบบ

RacingJacket พัฒนาอีกขั้นให้ใช้กับกีฬาทางน้ำในชื่อรุ่นWaterJacketและแว่นกันแดดรุ่น Four ถูกผลิตออกมา ในตระกูล ของ Frogskins

นาฬกาดิจิตอลรุ่นแรกผลิต ออกมาในรุ่น D1

อีกครั้งที่ Oakley ได้ฉีกกฏของการออกแบบ ซึ่ง ไม่เหมือนหรือคล้ายคลึงสิ่งใดเลย ออกแบบมาเพื่อต้อนรับเทศกาล กีฬาโอลิมปิก ซึ่งแว่น ได้รับการออกแบบให้รัดกระชับกับกะโหลกศีรษะมนุษย์จนถึงท้ายทอย มันทำให้เกิดการท้าทายแนวคิด การออกแบบแว่นตากันแดด นั่นคือรุ่น Overthetop

Overthetop

ปี 2001

แว่นตระกลู Wire อัพเดท EWire2.1 แว่นในซีรีย์ ThreeWhy ซึ่งใช้วัสดุเดียวกับแว่นในตระกลู X-Metal ออกมาใน รุ่นWhy1 และ 2 แว่นรุ่น Why3 เป็นแบบกรอบเจาะไร้เฟรมทั้งบนและล่าง

แว่นรุ่น Four เพิ่มขึ้นมาอีกในรุ่นที่เล็กกว่าในชื่อ FourS แว่น Five2.0 ออกมาในปีนี้แว่นตระกูล Jacket ปล่อย Sca ออกมาสู่ตลาดซึ่งมีส่วนประกอบของ X-Metal อยู่ที่ขา

ตระกูล X-metal ก็ปล่อยแว่นออกมาเช่นกันเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีโลโก้ของ Oakley อยู่ด้านข้างมาพร้อมขาสปริงในชื่อรุ่น Penny

Oakley Penny

Oakley ได้ทดลองนำวัสดุ Magnesium (แม็กนีเซียม) มาใช้ในการผลิตเฟรม โดยผลิตออกมาในรุ่น Mag Switch เป็นรุ่นแรก ปีนี้เป็นปีที่มีนาฬกาออกมามากมายหลายรุ่นเช่น D5 และนาฬกาแบบ   อะนาล็อคอีกสามรุ่นคือ Crush, Bullet, และ Torpedo

ปี 2002

แว่นตาใส่เล่นกีฬากลับมาอีกครั้งในรุ่น HalfJacket และมีแบบเป็นเซ็ตให้เลือก EyeJacket3.0 ออกมาพร้อม Half Pint แว่นตาสำหรับเด็กรุ่นแรก แว่นตระกลู Wire ออกมาอีกสองรุ่นคือ Half Wire และ Wiretap นอกจากนั้น Square Wire 2.0 30 mm ก็ออกมาในปี เดียวกัน

เฟรมที่ทำจาก Magnesium ยังคงออกมาเพิ่มในรุ่น Four และ MFrame นาฬกาดิจิตอลที่ออกมาในปีนี้คือ D2 และ D3 และแบบอะนาล็อคในรุ่น Crush 2.0, 2.5 และ Detonator

MEDUSAถูกผลิตออกมาเพื่อตอกย้ำในเรื่องวิทยาศาสตร์กับศิลปะสำหรับผู้เล่นกีฬาที่เกินขีดจำกัดของร่างกาย

ส่วนประกอบทำจากหนังคลุมทั้งศรีษะ

ปี 2003

เป็นปีที่ไม่หวือหวานัก XSFives เป็นแว่นเด็กรุ่นต่อมาที่ออกมาในปีนี้ Pocket และ Halo เพิ่มเข้ามาในไลน์ของ Frogskin

ในส่วนแว่นตาผู้ชาย Monster Dog ถูกออกแบบมาให้มีเฟรมขนาดใหญ่และราคาไม่แพง รุ่น Scar เลิกผลิต และส่งรุ่น Plate ซึ่ง ทำจากการหลอม O Matter ด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิค ตามมาด้วยรุ่น Valve BigSquareWire ผลิตออกมาในรูปแบบเดียวกับ SquareWire2.0 แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่านอกจากนั้นยังมี Teaspoon ซึ่งถือเป็นแว่นสำหรับผู้หญิงรุ่นแรกที่ถูกผลิตขึ้นมา

Teaspoon มีนาฬกาหนึ่งรุ่นถูกผลิตในปีนี้เป็นนาฬิกาสำหรับการท่องเที่ยวในชื่อ GMT

ปี 2004

Oakley เริ่มต้นปีนี้ด้วยการปล่อยแว่น ไร้ขอบในรุ่น Dartboard ออกมาเป็นรุ่นแรก ตามมาด้วย New Zero ในฤดูใบไม้ ผลิ MonsterDog เพิ่มเวอร์ชั่นที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาในชื่อ MonsterDoggle แว่นในตระกูล Why มาในวัสดุที่ไม่ใช่ X-Metalชื่อ Why 8.0 และ 8.1

นาฬการุ่น Blade ผลิตขึ้นในสไตล์ของรุ่น Crush ในต้นฤดูร้อนพร้อมกับแว่นกันแดดรุ่น Unknown ซึ่งมาเพื่อทดแทน รุ่น Minute

แว่น Fatcat และ Warden ออกมาในฤดูใบไม้ร่วงพร้อมนาฬกาตระกูลโลหะทิ้งตัวอย่าง Judge แว่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีให้ความบันเทิงรุ่นแรกออกมาในรุ่น Thump ที่มาพร้อมเครื่องเล่น MP3ในตัว Romeo 2 ถูก เข้ามาในแว่นตระกูล X-Metal วสัดุ Magnesium ถูกแทนที่ด้วย O-luminum ซึ่งน้ำหนักเบา โดยรุ่นแรก ที่ใช้วัสดุนี้คีอ Hatchet ในปีนี้เช่นกันที่ Oakley เริ่มผลิตแว่นในรูปแบบ AsianFit ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับรูปหน้าคนเอเชีย

ปี 2005

เริ่มต้นปีด้วยนาฬกาที่มาในเวอร์ชั่นสายหนังและโลหะล้วนในชื่อรุ่น Jury ในปลายปี TimeTank ถูกส่งเข้ามาเพื่อทดแทน Time Bomb แว่นในเวอร์ชั่นที่ใหญ่ขึ้นหลายรุ่นถูกเพิ่มเข้ามาในปีนี้ไม่ว่าจะเป็น DartboardL/Why8.2 ส่วน Crosshair ถูกผลิต ขึ้นและถูก นำเสนอในเวอร์ชั่นของแว่น AviatorWhiskerแว่น ตระกูล Wire มาในรูปลักษณ์ของ A Wire แต่ด้วยขนาดเลนส์ที่เล็กลง ไลน์แว่นตาในส่วนของ Jacket และ Frogskin ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น OMatte ตามวัสดุที่ใช้ผลิตและใช้เรียกแว่นที่ผลิตด้วยวัสดุชนิดนี้ทั้งหมดด้วย Bottlecap เพิ่มเข้ามาในแว่นประเภท Half-frame Gascan เข้าสู่ตลาดในไลน์ของ Frogskin Riddle แว่นที่ทำจากวัสดุตัวใหม่อย่าง Acetate(อะซีเตท)มีเลนส์ที่เชื่อม เป็นแผ่นเดียวกันหรือเลนส์ Shield RazorBlade ถูกผลิตอีกครั้งไม่นานจากนั้น Montefrio ที่ออกแบบโดย ShaunWhite ซึ่งเป็นการผสมกัน ระหว่าง Gascan และ Riddle ถูกวางจำหน่าย

แว่นที่มี Bluetooth ในตัวในชื่อ RAZRWire มาพร้อมเฟรมที่เบาเป็นพิเศษจากวัสดุ O-luminum จากนั้น Thump2 มา ในรูปลักษณ์ของ Gascan

ปี 2006

Gascan ยังคงเป็นต้นแบบของการออกแบบแว่นในระยะนี้ OilDrum คือเวอร์ชั่น ที่ใหญ่ขึ้นและ Fives3.0 คือเวอร์ ชั่นที่เล็ก กว่า Twitch / Canteen และ Eye Patch ก็เช่นกันแตกต่างด้วยขนาด ฤดใูบไม้ผลิปี2006 Oakley เปิดตัวแว่นสำหรับผู้หญิงอย่างเป็นทางการด้วยแว่น3รุ่นนั่นคือ Dart,Scriptและ Grapevine เมื่อถึงกลางปี Crosshair S ก็วางตลาด Thump Pro แว่น ที่มีเครื่องเล่น MP3 ในตัวรุ่นต่อมาวางจำหน่ายโดยอ้างอิงรูปแบบจาก Bottlecap และสุดท้าย ปลายปี MonsterPup ของเวอร์ชั่นที่เล็กลงของ MonsterDog ออกสู่ตลาด

ปี 2007

เฟรมแว่นสายตาสำหรับผู้หญิงเริ่มผลิตในปีนี้ และหลังจากแว่นตาสำหรับกีฬาไม่ได้อัพเดทมาตั้งแต่ปี2002ซึ่งHalf Jacket ออกสู่ตลาดในรูปแบบของแว่นไร้กรอบล่าง FlakJacketและRadarจึงวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมของปีนี้

กลางฤดใูบไม้ผลิแว่นในตระกลูที่ใช้โลโก้แบบ Stretchline ยกเลิกการผลิตอย่างเป็นทางการเปลี่ยนเข้าสู่ SquareO line เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างแว่นกีฬาและแฟชั่นไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ Square O ยังถูกเพิ่มเข้าไปในแว่นรุ่น Hijinx ซึ่งตามมาด้วยยุคของ Artist series เริ่มต้นด้วย Hijinx ที่ออกแบบโดย Art Chantry / Montefrio โดย Shaun White / Eye Patch โดย Todd Francis / Gascan โดย London Police จากประวัติศาสตร์และการออกแบบอันยาวนาน Frogskin ก็กลับเข้ามาสู่ตลาดอีกครั้งในปีนี้

ปี 2008

แว่นกันแดดสำหรับผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีก5รุ่นในต้นปี(Betray,Breathless,Eternal,RavishingและBelong) แว่นในตระกูล Square O เพิ่ม Oil Rig เข้ามา

X-metal เพิ่มHalf-Xเข้ามาในกลุ่ม โดยดีไซน์ยังคงเป็นแบบเปลือยกรอบล่าง แว่นกีฬาสำหรับผู้หญิงถูกผลิตเป็นครั้งแรกในรุ่นEndure แว่นอิเลคทรอนิคเพิ่มรุ่น O ROKR Pro ที่มีบลูทูธ ในตัว เข้ามา แว่นที่น่าสนใจในปีนี้ยังมี Jupiter ที่มีลักษณะของ Frogskin แต่เฟรมหนาขึ้นและการกลับมาของแว่นกรอบเปลือยอย่าง Conduct

ปี 2009

เดือนมกราคมเปิดตัว CollectorsFrogskins4-Legged ที่มาพร้อมขาที่ถอดสลับได้แว่นในตระกลูWire วางจำหน่าย Square Whisker ในเดือนกุมภาพันธ์ Jawbone แว่นรุ่นแรกที่มีเทคโนโลยี SwitchlockTM ซึ่งช่วยให้การถอดเปลี่ยนเลนส์เป็นไปอย่างง่ายดาย วางตลาดในเดือนมีนาคม พฤษภาคมเปิดตัว แว่นในตระกลูอีลทิ(Elite)ซึ่งมีโลโก้ที่ออกแบบพิเศษและใช้วัสดุที่ดีที่สุดในชื่อรุ่น PitBoss

Oakley Pit Boss
ตามมาด้วย CSix ในเดือนสิงหาคมและนับเป็นแว่นรุ่นแรกที่เปิดตัวด้วยวัสดุ CarbonFiber ในเดือนพฤศจิกายน แว่นกันแดดรุ่นสุดท้ายในตระกูล X-Metal เปิดตัวในชื่อ X-Squared แว่นในกลุ่ม Gascan เปิดตัว FuelCell ด้วยขนาดที่ใหญ่และหนาขึ้น
ส่งท้ายปลายปี ด้วยการกลับมาของนาฬ
กา Time Bomb ในชื่อรุ่น Time Bomb II

ปี 2010

ปีแห่งแว่นในตระกูลกรอบแว่นสายตาที่ผลิตออกมากว่า10รุ่นในส่วนแว่นกันแดดที่โดดเด่นในปีนี้คือการเปิดตัว Holbrookในเดือนมกราคม และมีสีสันออกมาให้เลือกหลังจากนั้นอีกมากมาย

Split Jacket แว่นในตระกลู Jaw ที่มาพร้อม SwitchlockTM แบบเดียวกับ Jawbone แต่มีขนาดเล็กลง วางจำหน่ายทั้งในแบบ Asian Fit และขนาดทั่วไป Taken และ Vacancy แว่นสำหรับสตรีวางตลาดในเดือนเมษายน และ Beckon ,Fringe ,Necessity ในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน

ปี 2011

เริ่มต้นปีด้วยกรอบแว่นสายตาหลากหลายรุ่นเช่นเดียวกับปีก่อนตามมาด้วยแว่นในไลน์ของ MonsterDog แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นในชื่อ PitBull เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม FastJacket แว่นไร้กรอบล่างในตระกลู Half ที่มาพร้อม SwitchlockTM วางจำหน่ายใน เดือนมิถุนายน Half Jacket 2.0

(Asian Fit) ตามมาในเดือนกันยายนปีเดียวกันส่งท้ายปลายปีด้วยนาฬกาในไลน์สินค้าอีลทิ ในชื่อ Elite Full Metal Jacket (FMJ)

ปี 2012

RadarLockEdge แว่นสปอร์ตสำหรับผู้หญิงวางจำหน่ายในเดือนมกราคม RadarLockXLที่มีเลนส์ขนาดใหญ่ พิเศษ Crosshair(New)และTwenty(Newกลับมาอีกครั้งในปีนี้

Crosslink กรอบแว่นสายตารุ่นยอดนิยม วางจำหน่ายในเดือนเมษายน Racing Jacket( New) ที่มีรูปแบบเดียวกับ Jawbone แต่มีสายรัด วางจำหน่ายในเดือนนี้ เช่นกัน Garage Rock แว่นกันแดดที่โดดเด่นอีกรุ่นวางจำหน่ายต้นปีด้วย Logo มาตรฐานแทน Elite จากนั้น TwoFace แว่นที่มีส่วนผสมจากวัสดุทั้ง โลหะและ O- Matter วางจำหน่ายในเดือนเมษายน

ปีนี้นับเป็นปีแห่งแว่นตระกลู LX ซึ่งใช้วัสดุประเภท Acetate ซึ่งมีจุดเด่นที่สีสันที่สดใสและลายกระที่เป็นเอกลักษณ์ แว่นในกลุ่มนี้  ประกอบด้วย Holbrook LX (Asian Fit) , Jupiter Squared LX , Frogskins LXและ Garage Rock LX (Asian Fit)

แว่นกันแดดรุ่นแรกเริ่มกลับมาจำหน่ายอีกครั้งในคอลเลคชั่นสะสม ในชื่อ E Wire, Collectors Square Wire, Collectors และ T Wire, Collectors วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน

ปี 2014

ปีแห่ง Carbon Fiber วัสดุใหม่ที่ Oakley นำเข้ามาใช้ในการผลิตเฟรมแว่นกันแดด เริ่มนำมาใช้ในแว่นกันแดดรุ่นที่ไม่ใช่ Elite หลังจาก Jupiter Carbon ออกมาเมื่อกลางปี 2013 เริ่มด้วย Tincup Carbon ในเดือนมกราคม Carbon Blade ในเดือนเมษายน และ Tincan Carbon ,Tinfoil Carbon ในเดือนพฤษภาคม

แว่นกีฬาสำหรับเด็กรุ่นแรก QuarterJacket วางจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ แว่นในกลุ่ม Gascan เพิ่มรุ่นCrankshaft เข้ามาด้วยเฟรมที่บางลง Mรุ่นต่อมาของ M-Frame วางจำหน่ายในเดือนเดียวกัน

ปี 2015

ปีแห่งการกลับมาของแว่นกันแดดหลายๆกลุ่ม เริ่มด้วยการกลับมาอีกครั้งของ X-Metal แต่ด้วยวัสดุใหม่อย่างLightweightAluminum ที่ผ่านการหลอมอย่างประณีต MadmanและBadman วางตลาดในเดือนกุมภาพันธ์

การกลับมาของแว่นไร้กรอบ (Rimless)Tailback เปิดตัวในเดือนมกราคม จากนั้น TailendTailhoo และ Tailpin ตามมาในเดือนเมษายน อีกครั้งที่แว่นตระกูล Jaw กลับมาในชื่อ Jawbreaker ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักปั่น ด้วยเลนส์ที่กว้างกว่ารุ่นมาตรฐานถึง 44ให้รัศมีการมองเห็นที่ครอบคลุมมากขึ้นแว่นในกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นในปีนี้ยังมี Sliver/CatalystและLatch ที่ออกวางตลาดในปลายปีนับจากวัน ที่Oakley ถือกำเนิดจนถึงปัจจุบันเรามีสิทธิบัตร กว่า1,000ใบ ประสบการณ์ทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในเทคโนโลยีแว่นกันแดดมาจนถึงปัจจุบัน

Oakley Thailand

Oakley ในประเทศไทย ก่อตั้งในปี 2539 โดยมีบริษัทโอ๊คลีย ์ (ไทยแลนด์) จำกัดเป็นตัวแทนจำหน่าย เริ่มต้นจากความเป็นแฟนตัวยง ของแบรนด์ของผู้ก่อตั้งบริษัทเป็นผู้บุกเบิกตลาดจนกลายเป็นที่นิยมของลูกค้าในปัจจุบัน Oakley ในประเทศไทย มีสาขาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรี่ยมเป็นที่แรก และขยายตัวต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

Logos

โลโก้แรกของ Oakley ปรากฎบนนามบัตรของ จิม แจนนาร์ด ผู้ก่อตั้งในปี ค.. 1975 โลโก้อย่างเป็นทางการของ Oakley กับผลิตภันฑ์แรก Handgrips สำหรับจักรยาน

ThermonuclearLogo กำเนิดขึ้นมาในช่วงต้นทศวรรษที่80 (ปัจจุบันเราเรียกว่าโลโก้แบบคลาสสิค) Thermonuclear Logo อีกแบบหนึ่ง

StretchLogo ออกแบบขึ้นมาในปี1993แทนThermonuclearLogo(ที่ภายหลังถูกนำกลับมาใช้ในแว่นคอเลคชั่น สะสม)

Stretch Logo แบบหนา ถูกนำมาแทนที่แบบบางในปี 1996

Icon โลโก้อย่างเป็นทางการที่ได้รับการจดจำมากที่สุด จนถึงปัจจุบันปรากฎครั้งแรกในปี ค.. 1994

Static Icon ใช้ในสินค้าที่เกี่ยวกับกีฬา โดยมากเป็นเสื้อผ้า ไม่ใช้ในสินค้าจำพวกแว่นตา Script Logo ใช้ในสินค้าสำหรับผู้หญิง รวมทั้งแว่นกันแดด Script Logo แบบต่อมา Abstract Logo เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 2015 ในสินค้าเครื่องแต่งกายชาย skullcollection

 คอลเลคชั่นกอล์ฟ กับโลโก้รูปกะโหลกไขว้จากญี่ป่นุ

ปัจจบุัน Oakley มีแนวคิดในการคงเหลือโลโก้ไว้เพียง1โลโก้เพื่อการจดจำที่ง่ายดังนั้นโลโก้บางชนิดจะหายไป เช่น Square O และ Script Logo

บทที่4

Oakley and Technology

โอ๊คลี่ย์และเทคโนโลยี

Oakleyไม่เพียงให้ความสวยงามและสวมใส่สบายเท่านั้นแต่เลนส์และเฟรมทุกชนิดของ Oakley ยังมีเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด แตกต่างจากแว่นกันแดดที่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาดเนื้อหาต่อจากนี้คือ การทำความรู้จักกับ รังสี UV เลนส์ของ Oakley รวมทั้งเฟรม และเทคโนโลยีใหม่

ล่าสุดอย่าง PRIZMTM

รังสี UV

รังสี UV หรือรังสี อุลตร้า ไวโอเล็ต(Ultraviolet) เป็นรังสีที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ มีแหล่งกำเนิดมาจากปฏิกิริยา นิวเคลียร์ฟิวชั่นบนดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นปฎิกริยาThermonuclear(เทอร์โมนิวเคลยีร์)เป็นแหล่งพลังงานความร้อนและแสงสว่าง ให้กับทุกชีวิตบนโลก

รังสียูวีเป็นรังสีที่ มีความยาวคลื่นตั้งแต่100–400นาโนเมตร(นาโนเมตรคือ1ในส่วนพันล้านเมตร)แบ่ง เป็น3 ชนิดตวามความยาวคลื่น 

1. UVA (ความยาวคลื่น 320-400 นาโนเมตร ) รังสี UVA สามารถแบ่งย่อยได้อีกสองส่วนคือ UVA-1มี ความยาว คลื่นอยู่ระหว่าง340-400นาโนเมตรและUVA-2มีความยาวคลื่น อยู่ระหว่าง320-340นาโนเมตรรังสีUVAนั้นสามารถ ทะลุทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศและเมฆได้เป็นอย่างดีจึงตรวจพบได้ทั่วไปรังสียูวีส่วนใหญ่บนโลกเป็นรังสียูวีชนิดนี้

2.UVB (ความยาวคลื่น290-320นาโนเมตร) โอโซน(Ozone)ไอน้ำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และออกซิเจนในชั้นบรรยากาศจะดูดซับรังสี UVBไปได้มากสุด ประมาณ 90% ดังนั้นจึงแทบทะลุผ่านชั้นบรรยากาศลงมาไม่ได้ อย่างไรก็ดีปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ทำให้ชั้นโอโซนบางลงส่งผลให้รังสีUVสามารถทะลุผ่านลงมาได้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่โอโซนเป็นรูโหว่อย่างประเทศออสเตรเลีย และประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีชั้นโอโซนบางตาม ธรรมชาติ

3.UVC(ความยาวคลื่น 100290nm)

นอกจาก UVA และ UVB แล้ว ยังมี UVC ที่มีความยาวคลื่น ยาวทำให้อำนาจการทะลุทะลวงน้อย ชั้นบรรยากาศโลก กรองเอาไว้ได้เกือบ100%แต่ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันนี้ทำให้รังสีUVBและUVCทะลุผ่านชั้นบรรยากาศได้มากขึ้นรังสีUVเป็นสาเหตุของโรคทางตาหลายโรคทั้งต้อลมต้อหินต้อเนื้อต้อกระจกโดยปริมาณรังสีUVในแต่ละพื้นที่ และแต่ละช่วงเวลาของวันมีความเข้มไม่เท่ากันความเข้มของรังสีUVแบ่งเป็น11ระดับโดยที่

  • -  02:Lowระดับ ต่ำ

  • -  35:Moderateระดับปานกลาง

  • -  67:Highระดับสูง

  • -  8 -10 : Very High ระดับสูงมาก

  • -  11หรือมากกว่า :Extremeระดับวิกฤติ

    โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

    1.ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ระดับรังสียูวีจากแสงอาทิตย์บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรจะเป็นระดับที่ทำอันตรายได้มากที่สุดดังนั้นยิ่งเราอยู่ห่างจากบริเวณเส้นศูนย์สูตร มากขึ้นเท่าไรเราก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้นประเทศไทยนับเป็นประเทศแถบ เส้นศูนย์สูตร โดยเส้นศูนย์สูตรของโลกจะพาดผ่านบริเวณเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ประเทศไทยมีระดับรังสี UVอยู่ที่ระดับ10-11เสมอในหน้าหนาวบริเวณภาคใต้ปริมาณรังสีอาจจะสูงถึงระดับ13

    2.ระดับความสูงเมื่อเราไปอยู่ในระดับความสูงที่มากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งได้รับรังสียูวีจากแสงอาทิตย์มากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่กลางแดดในที่สูงเป็นเวลานาน ๆ

3.ช่วงเวลาของวัน ในช่วงเวลาประมาณ10โมงถึงบ่าย2โมงจะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก แสงแดดในช่วงนี้จะแรงมาก ดังนั้นหากไม่จำเป็น ไม่ควรออกแดดในช่วงเวลานี้จะเห็นได้ว่าภูมิภาคที่ตั้งของประเทศไทยเป็นภูมิภาคที่มีปริมาณรังสีUVเข้มข้นมากแทบตลอดทั้งปีการใช้เลนส์ที่มี ประสทิธิภาพในการป้องกันรังสีUVได้ดีจึงมีความสำคัญอย่างมาก

แว่นกันแดดทั่วไปตามท้องตลาดมักจะบอกคุณสมบัติป้องกันรังสีUV100%ซึ่งเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเพราะ โดยปกติจะป้องกันได้เพียงรังสีUVA ส่วนรังสีUV ที่มีความถี่คลื่นต่างไปจากนั้นซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นจากปัญหา สิ่งแวดล้อมจะไม่สามารถป้องกัน ได้ทั้งหมดต่างจากOakley ซึ่งทราบถึงปัญหาในข้อนี้เลนส์ของOakleyทุก สีจึงสามารถ ป้องกันรังสีUVได้100%ในทุกความถี่และยังป้องกันรังสีบลูไลท์อื่นๆในความถี่เดียวกันอีกด้วย

High Definition Optics (HDO®) (ไฮจ์ เดฟฟินิชั่นออฟติค) OakleyHighDefinitionOptics®(HDO®) คือเลนส์ความคมชัดสูงของOakleyที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐานขององค์การอุตสาหกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกา(AmericanNationalStandardsInstitute)หรือANS

ซึ่ง ทดสอบ

- ClarityTest วัดความคมชัดของภาพที่มองผ่านเลนส์

  • -  Refractive Power Test วัดอัตราการขยายของเลนส์ที่มีต่อภาพ

  • -  Prism Test วัดการหักเหของแสงเมื่อผ่านเลนส์ ซึ่ง ทำให้วัตถุคลาดเคลื่นจากตำแหน่งจริงของมันด้วยการผ่านการทดสอบทั้งหมดดังกล่าวในระดับที่เหนือกว่ามาตรฐานเลนส์ของOakley จึงให้ประสิทธิภาพการมองที่ทั้งคมชัด ไร้การขยายวัตถุให้ผิดไปจากขนาดที่แท้จริงและยังคงระยะทางและตำแหน่งที่แท้จริงของวัตถุเอาไว้นั่นคือการมองเห็นที่ดีที่สุดที่แว่นตากันแดดในโลกนี้จะมอบให้คุณได้

HD Polarized

Glare(แกลร์แสงสะท้อนจากวัตถุที่เป็นมันเงา(ที่ไมใ่ช่โลหะ)ลดประสทิธิภาพในการมองเห็นของเราทุกคนแสง แกลร์พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันตั้งแต่แสงสะท้อนจากพื้นผิวถนนแสงสะท้อนจากผิวน้ำจากก้อนเมฆบนฟ้าหรือแม้แต่จากฝุ่นละอองจากมลภาวะและหยดน้ำในอากาศทั่วไป

HDPolarized ออกแบบมาเพื่อนักกีฬามืออาชีพโดยเฉพาะแต่เทคโนโลยีก็ควรปรับใช้เราทุกคนดังนั้นเลนส์HDPolarizedของOakley จึงให้ประสทิธิภาพที่ยอดเยี่ยมในระดับเดียวกับที่นักกีฬามืออาชีพต้องการกับผู้ใช้ทุกคน ในการผลิตเลนส์ HD Polarized โอ๊คลี่ย์ใช้เทคโนโลยีการหลอมเลนส์ที่มีความแม่นยำสูง ในการผสมตัวกรองโพลาไรซ์ ลงไปในเนื้อเลนส์จนเป็นเนื้อเดียวกันโดยไม่ใช้การซ้อนฟิล์มโพลาไรซ์ลงไประหว่างเลนส์ ซึ่งสารยึดเกาะและจำนวนชั้นของเลนส์ที่มากขึ้นจะยิ่งทำให้การมองภาพมีความผิดเพี้ยนมากขึ้นนอกจากนี้เลนส์แต่ละชิ้นของโอ๊คลี่ย์ ยังทำจากชิ้นเลนส์แม่แบบตัวเดียวกันซึ่งจะช่วยให้การเรียงตัวของตัวกรอง โพลาไรซ์ เป็นไปในแนวเดียวกันต่างจากเลนส์ที่ทำมาจากเลนส์แม่แบบคนละชิ้นที่ทิศทางของแสงโพลาไรซ์จะกระเจิงไปคนละ ทาง

Impact Protection

สำหรับ โอ๊คลีย์ เราทำการทดสอบที่เกินขีดจำกัด และไม่จำเป็นต้องทำในระดับนั้นก็ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเลนส์ของเรามีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

ด้วยเลนส์ที่ลูกบอลเหล็ก ขนาดเล็กที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วกว่า102(163.2 ..) ไมล์ต่อ ชั่วโมงไม่สามารถทำ อันตรายได้หรือแม้แต่วัตถุที่หนัก 1ปอนด์(450กรัม)ทิ้งลงในแนวดิ่งจากความสูง120เซ็นติเมตรก็ไม่ทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของแว่นทำอันตรายต่อใบหน้าของผู้สวมใส่ได้ Oakley จึงให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ทุกคนว่าการสวมใส่ที่สบายจะมาพร้อมความทนทานและปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยเช่นกัน

Oakley True Digital (OTD)

เลนส์ของ Oakley ยังสนับสนุนสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตาด้วยเทคโนโลยีการตัดเลนส์สายตาที่ทันสมัยและด้วยเทคโนโลยี OakleyTrueDigital ทำให้ขอบเขตการมองเห็นเพิ่มขึ้นจากเลนส์ทั่วไปถึง40ไม่ใช่คมชัดเฉพาะช่วงกลางของเลนส์เหมือนเลนส์ทั่วไป

Tree Point Fit (ทรี พอยต์ ฟิต) คือคุณสมบัติของแว่นกันแดดที่ดีซึ่งจะต้องมีจุดสัมผัสบนใบหน้าเพียง3จุดเท่านั้นได้แต่ที่บริเวณใบหูทั้งสองข้างของผู้สวมใส่และบริเวณสันจมูกอีก1จุดOakleyให้ความสำคัญกับคุณสมบัติข้อนี้เสมอมา การเลือกแว่นกันแดดที่เหมาะสม กับใบหน้าลูกค้าจึงควรคำนึงถึงจุดสัมผัสเหล่านี้ AsianFit สำหรับผู้ใช้ชาวเอเชียที่มีรูปหน้าแตกต่างจากผู้คนในทวีปยุโรปและอเมริกาOakley ได้ออกแบบเฟรมที่มีความเฉพาะ ด้วยเฟรมที่กว้างขึ้น แต่มีความโค้งน้อยลงและยังมีแป้นจมูกที่สูง รับกับใบหน้าของคนเอเชีย ทำให้การสวมใส่แว่นกันแดดเป็นระยะเวลานานๆโดยยังคงความสบาย ตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ทำได้

บทที่5

Prizm Lens Technology

PRIZMTM(ปริซมึ่คือเทคโนโลยีเลนส์แบบใหม่ของโอ๊คลี่ย์ซึ่งช่วยเพิ่มรายละเอียดในการมองเห็นเพื่อประสิทธิภาพ การใช้งานสูงสุด เลนส์ทั่ว ๆไปจะให้ภาพภูมิประเทศที่จืดชืด ขมุก ขมัว และขาดมิติที่สมจริง ซึ่งจะกลายมาเป็นภาพที่มีสีสันสดใสสมจริงด้วยเลนส์ PrizmTM ที่ถูกออกแบบมาให้แสดงทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ให้การมองเห็นที่เฉียบคมช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้นและตอบสนองไวขึ้น

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแยกความแตกต่างของสิ่งต่างๆช่วยให้คุณสนใจสิ่งที่ควรสนใจ

เพิ่มความสามารถในการมองเห็นวัตถุที่เคลื่อนที่รอบๆตัวขณะคุณเคลื่อนไหว

เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของคุณด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

PRIZMTM ทำงานอย่างไร?

ปริซึ่ม ทำงานด้วยการจูนคลื่นความถี่ของแสงสีแต่ลความยาวคลื่นให้ได้ประสิทธิภาพการมองเห็นสูงสุดให้การมองเห็นที่คมชัดเผยให้เห็นสิ่งที่การมองด้วยตาเปล่าอาจจะพลาดไปเราพูดได้ว่ามันคือสุดยอด ตัวปรับจูนสี ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมแต่ละแบบ เราใช้ประโยชน์เทคโนโลยีจากภาพถ่ายสเปคตรัม ซึ่งสะท้อนแสงสีต่างๆออกมาแตกต่างในแต่ละสี ซึ่งเป็น เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้กับดาวเทียม มันช่วยให้เราวิเคราะห์แสงแต่ละแบบในสภาพแวดล้อมจริงในระดับรายละเอียดที่สุด และ แม่นยำสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมแว่นกันแดดให้สูงขึ้นไปอีก

ทาไมการเห็นสีสันที่ถูกต้องสมจริงจึงมีความสาคัญ?

สภาพแวดล้อมแต่ละแบบต้องการการมองเห็นที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเหตุผลนี้แต่ละกิจกรรมจึงมีความต้องการที่แตกต่างกัน Oakley PrizmTM คือคำตอบของความต้องการเหล่า นั้นด้วยการจัดการการมองเห็นให้ถูกต้องแม่นยำสูงสุด ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและกิจกรรมที่คุณกำลังทำ การมองเห็นสีที่ถูกต้องแม่นยำช่วยให้คุณ แยกแยะสิ่งต่างๆ ในระยะการมองเห็นเช่น กรีนกอล์ฟสิ้นสุดที่ตรงไหนพื้นที่ ขรุขระเริ่มตรงจุดไหนมันยังช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งรบกวนต่างๆอย่างเช่นกิ่งไม้ รากไม้ได้ชัดเจนขึ้นขณะปั่นจักรยานแบบ MTB เลนส์ทั่วไปตามท้องตลาดพยายามทำสิ่งเหล่านี้ด้วยการเพิ่มคอนทราส ลงไปในสีเลนส์แบบง่ายๆซึ่งมีผลกับสีทุกสีแบบกว้างๆ นั้นจึงทำให้สีสัน ที่คุณมองเห็นดูแปลกประหลาด นี่คือเหตุผลว่าทำไม PrizmTM จึงต้องผ่านการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน

การให้สีที่ถูกต้อง การเพิ่มการตัดกัน ของสีให้มากขึ้น และให้การมองเห็นที่คมชัดสูงสุด เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ PrizmTM มอบให้คุณด้วยการเน้นสีสันที่ถูกต้องแม่นยำยังช่วยให้คุณ มองเห็นสิ่งที่กำลังเคลื่อนที่เข้าหาดวงตาขณะกำลังปั่นจักรยาน ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงดีเยี่ยม

ปริซึ่ม ช่วยให้ฉันเห็นสีที่ฉันจำเป็นต้องเห็นได้อย่างไร?

ปริซึ่มเลนส์ จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองคลื่นความยาวแสงที่ถูกต้อง เพื่อสีสันที่ถูกต้องที่สุด ภายใต้ความเข้าใจอย่างดี ต่อความซับซ้อนของการตีความหมายแสงสีแต่ละชนิดของดวงตามนษุย์เราสามารถออกแบบเลนส์ที่ช่วยเพิ่มรายละเอียดของการมองเห็นด้วยการจูนคลื่นความยาวที่ถูกต้องของสีแต่ละสีส่งผลให้สีสันมีความสดขึ้นเรายังรวบรวมความแตกต่างของ สภาพแวดล้อมแต่ละแบบเพื่อกำหนดว่าสีไหนมีความจำเป็นต้องทำให้สดขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมในการมองเห็น ด้วยการอ้างอิงจากโครงสร้างของดวงตามนษุย์ เราจึงปรับกรองสีสันที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสทิธิภาพการมองเห็นของคุณ

เลนส์ปริซึ่ม แตกต่างจากสีของเลนส์ทั่วไปอย่างไร?

เลนส์ของแว่น กัน แดดทั่วไปทำงานโดยการแค่ทำทุก สิ่ง ทุก อย่างมืดลง บ้างก็มีการเพิ่มคอนทราสให้สีสดขึ้นแต่ใน แบบกว้างๆ สิ่งที่พวกเขาขาดคือการจูน สีที่จำเป็นต้องให้เป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างที่PrizmTM ทำ

ปรึซึ่มม และโพลาไรซ์แตกต่างกันหรือไม่?

PrizmTM และ POLARIZED มีความแตกต่างกันอย่างมากเทคโนโลยีทั้งสองอย่างให้ผลลัพธ์คนละแบบ โพลาไรซ์ นั้นตัดแสงสะท้อนที่สะท้อนออกมาจากตัววัตถุต่างๆในสภาพแวดล้อมของคุณ PrizmTM ทำงานในอีกแบบหนึ่งมันคือทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสีและคอนทราส(การตัดกันของ) ปริซึ่ม คือตัวจูนสี และคอนทราสให้พอดีเพื่อประสทิธิภาพในการมองเห็น อย่างสูงสุดในบางกรณี Oakleyได้รวมเอาทั้งสองเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบความได้เปรียบของทั้งสองสิ่งแก่คุณ ส่วนในสภาพแวดล้อมอื่นเราได้ออกแบบเฉพาะให้ปริซึ่มเลนส์ ไม่เป็นเลนส์โพลาไรซ์ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นสิ่งกีดขวางได้ง่ายขึ้น (เพราะ มีแสงสะท้อน)

เลนส์ปริซึ่มสามารถตัดเป็นแว่นสายตาได้หรือไม่?

ปัจจุบันสามารถตัดเป็นแว่นสายตาได้ในรุ่นปริซึ่มกอล์ฟเทรลและปรึซึ่มโรด

ENVIRONMENTS สภาพแวดล้อมและการใช้งาน

PRIZMTM DAILY POLARIZED (ปริซึ่มเดลี่ โพลาไรซ์)

ด้วยเลนส์กันแดดทั่วๆไปทิวทัศน์ที่เรามองมันจะมีมิติแบนราบขาดความลึกสีสันจืด ทึมทึบสิ่งเหล่านี้จะดีขึ้นด้วยเลนส์ปริซึ่มเ พราะเทคโนโลยีของปริซึ่มช่วยให้ทุกสีสันในสภาพแวดล้อม ช่วยให้อารมณ์สดชื่นขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสวมใส่ตลอดวันปริซึ่มเดลี่ช่วยให้การมองสบายขึ้นในสภาพแสงที่หลากหลาย ทั้งยังมาพร้อมกับ HD Polarized ระดับพรีเมี่ยมที่ช่วยตัด แสงสะท้อนมอบความสบายให้คุณขณะขับขี่

ประโยชน์หลัก
สีแดงมีความอิ่มตัวขึ้น
สีฟ้าของท้องฟ้า มีความสดขึ้น – เพิ่มเฉดสีเขียวให้เด่นขึ้นในส่วนของใบไม้ที่มีสีเขียว – เพิ่มความสดของเฉดสีเหลืองและส้ม

PRIZMTMFIELD(ปริซึ่ม ฟิลด์)

ด้วยเลนส์ทั่วๆไป สีตุ่น คือสีที่คอนทราส หม่นหมอง ซึ่งทำให้ยากต่อการติดตามลูกบอลขณะที่มันลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยการปรับจูนสีที่จำเป็นให้ถูกต้องสูงสุด ปริซึ่มฟิลด์ จะช่วยขับเน้นสีของท้องฟ้าฉากหลังให้ได้คอนทราสที่เหมาะสมที่สุด นั่นหมายความว่าลูกบอลจะถูกขับเน้นให้เด่นชัดขึ้น จากฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสนามหญ้าสีเขียวและดินที่เป็นสีน้ำตาล

ประโยชน์หลัก

- ขับเน้นสีฟ้าของท้องฟ้าเพื่อเพิ่มคอนทราสให้ฉากหลังตัดกับสีของลูกบอล
- ช่วยให้ติดตามการเคลื่อนที่ของลูกบอลผ่านฉากหลังที่เป็นดินและหญ้าได้ง่ายขึ้น- ช่วยให้สีขาวของลูกบอลดูสว่างขึ้นมองเห็นการตัดกันกับฉากหลังได้ง่ายขึ้น

PRIZMTMGOLF(ปริซึ่ม กอล์ฟ)

การเล่น กอล์ฟให้เก่ง คุณ ต้องทำมากกว่าการอ่านกรีน คุณต้องมองเห็นจุดที่จะเปลื่ยนเส้นทางของลูกในแฟร์เวย์ ต้องวัดระยะด้วยสายตาให้แม่นยำ และต้องมีสายตาที่แม่นยำในการอ่านทิศทางของพื้นหญ้า เลนส์PrizmTM Golf ช่วยเหล่านัก กอล์ฟในสิ่งเหล่านี้การแยกสีสัน เฉพาะสีช่วยให้การ กะระยะในการตีลูกเป็นไปอย่างแม่นยำ และเมื่อคุณอยู่บนกรีนก็สามารถแยกประเภทของหญ้าเพื่อคำนวณทิศทางของลูกได้อย่างแม่นยำ

ประโยชน์หลัก

-ช่วยคุณเห็นจุดหักเหบนพื้นผิวที่คุณอาจจะพลาดไป

-ปรับปรุงคอนทราสระหว่างสีน้ำเงินอมเขียวของหญ้าสภาพดีและสีเหลือง และระหว่างสีส้มแดงของหญ้าตาย แยกสีในเฉดสีเขียวเพื่อให้แยกรายละเอียด ของพื้นผิวได้ชัดเจนมากขึ้น

PRIZMTMROAD(ปริซึ่มโร้ด)

เหล่านักกีฬาล้วนเคยพบเห็นสิ่งเหล่านี้และด้วยเลนส์ที่ด้อยคุณภาพพวกเขาไม่มีทางเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ดีพอโคลน รอยร้าวบนถนน,รอยปะซ่อมถนน,และสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่ปรากฎขึ้นในเสี้ยววินาที และต้องใช้เวลาในเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจ และเมื่อดวงตาไม่ได้ภาพที่มีคุณภาพมากพอที่จะส่งสัญญานไปยังสมองผลของการตัดสินใจนั้นจึงน่าเศร้า PrizmTMRoad ช่วยให้บรรดานักกีฬาเห็นถึงจุดที่พื้น ผิวถนนเกิดการเปลี่ยนแปลง สิ่งกีดขวางสามารถเห็นได้ง่ายขึ้นการตอบสนอง ทำได้เร็วขึ้น ช่วยให้เขาเหล่านั้นแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

ประโยชน์หลัก

-เพิ่มประสทิธิภาพในการมองเห็นในสภาพแสงที่หลากหลาย

-ทำให้เส้นจราจรสีขาวและเหลืองสดขึ้น และไฟจราจรเด่นชัด ขึ้น

 -ช่วยให้สีสันของท้องฟ้าและพืชพรรณ สดขึ้นเพื่อการปั่นที่สนุกสนานขึ้น

PRIZMTMTRAIL(ปริซึ่ม เทรล)

ดินแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันบางชนิดแข็ง บางชนิดอ่อนนุ่ม กว่าหรืออาจจะร่วน และเพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจนักกีฬามืออาชีพต้องการเห็นรายละเอียดที่แตกต่างกัน แม้เพียงเล็กน้อยบนพื้นผิวพวกเขายังต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วเพื่อแยกแยะ พื้นทราย หิน รากไม้ และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ออกจากกันในสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ขณะอยู่ในร่มและ ออกไปกลางแจ้งซึ่งเลนส์ทั่วไปไม่มีประสทิธิภาพพอ นักกีฬาจึงต้องการเลนส์ซึ่งออกแบบมาเฉพาะให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม แบบวิบาก ขรุขระไม่ว่าคุณจะปั่นจักรยานอยู่บนเส้นทางที่ขรุขระหรือวิ่งอยู่บนทางที่เต็มไปด้วยหินกรวดในสภาพแสงที่หลากหลาย

ปริซึ่มเทรล คือตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งจะมอบคอนทราสที่ยอดเยี่ยมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

ประโยชน์หลัก

-เพิ่มประสิทธิภาพ การมองในหลากหลายสภาพแสง
-ช่วยให้คุณแยกแยะ สิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ ในเฉดสีน้ำตาล ทำให้เห็นความแตกต่างของพื้นผิวได้อย่างละเอียด

-ทำให้สีของใบไม้สดขึ้นเพื่อเพิ่มการมองเห็น

PRIZMTMWATERPOLARIZED(ปริซึ่มวอเตอร์โพลาไรซ์)

ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเลนส์ของปรึซึ่ม ในการปรับจูนสีให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำเราด้ออกแบบ ปริซึ่มเลนส์สำหรับน้ำแบ่งออกเป็นสองแบบคือสำหรับน้ำตื้น และน้ำลึก ทั้งสองแบบยังถูกเพิ่มประสทิธิภาพขึ้นไปอีกด้วย HD Polarized ซึ่งจะป้องกันแสงสะท้อนจากผิวน้ำได้ถึง99% โดยปราศจากการบิดเบือนที่มากับเลนส์โพลาไรซ์ทั่วไปจากการแล่นเรือสู่การพายเรือ บนไม้กระดาน และพายเรือคายัค PrizmTMWater คือสุดยอดเลนส์สำหรับกิจกรรมทางน้ำทุกอย่างและคุณจะได้เห็นความแตกต่างทั้งความสบายและประสิทธิภาพ

ประโยชน์หลัก :PrizmTMShallowWaterPolarizedสำหรับน้ำตื้น

-เพิ่มความแม่นยำในโทนสีเขียวและสีทองแดงซึ่งจะทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ใต้ผิวน้ำได้ดีขึ้น 

-คงความสว่างของสีขาวเอาไว้ซึ่งจะช่วยให้เห็นแสงสะท้อนจากเกล็ดปลาได้ง่ายขึ้น

-ช่วยให้เห็นปลาที่อยู่ตื้นๆได้
-HDP olarizedTM ช่วยป้องกันแสงสะท้อนได้ 99%

PrizmTM Deep Water Polarized สำหรับน้ำลึก

-กรองแสงโทนน้ำเงินออกไปเพื่อเพิ่มโทนสีอุ่นให้มากขึ้นในน่านน้ำเปิด

-เพิ่มคอนทราสให้สีเขียวและแดง

-คงความสว่างของแสงสีขาวเอาไว้ทำให้คุณไม่พลาดแสงสะท้อนจากปลา

-เพิ่มการป้องกันแสงสะท้อนด้วย HDP olarizedTM

PRIZMTMCRICKET(ปริซึ่มคริกเก็ต)

OakleyPrizmTMCricket เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อให้การมองตามลูกคริกเก็ตผ่านฉากหลังสีเขียวของหญ้าและสีน้ำตาล ของดินทำได้ง่ายขึ้นตัวกรองแสงที่แม่นยำ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มคอนทราสให้ลูกสีแดง กับฉากหลัง และยังทำงานได้ดีกับลูกบอลสีขาว ไม่ว่าคุณ จะเป็นฝ่ายตีลูกหรือฝ่ายวิ่ง คุณจะได้เปรียบในการมองตามลูกทั้งความเร็วและทิศทาง ให้รายละเอียดที่สีสดใส PrizmTMCricket มอบสายตาแบบแบทแมนให้กับคุณซึ่งให้ข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจเพื่อจังหวะ ที่ดีที่สุด

ประโยชน์หลัก

-เพิ่มคอนทราสสำหรับลูกบอลสีแดงและขาวตัดกับฉากหลังสีน้ำตาลและเขียว

-เพิ่มความคมชัดเผยให้เห็นสิ่งที่คุณอาจจะพลาดไปหากมองด้วยตาเปล่า
-ทำให้การสังเกตความเร็วและทิศทางของลูก เป็นเรื่องง่าย ทั้งสำหรับคนเฝ้าฐานและผู้เล่นในสนาม

PRIZMTMMX(ปริซึ่ม MXTM)

ออกแบบมาไม่เพียงเพื่อให้มองเห็นสิ่งกีดขวางง่ายขึ้น PrizmTMMX ยังช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงแม้เพียง เล็กน้อยในชนิดของดินโคลนซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มความมั่นใจในการ ควบคุมทิศทางช่วยเพิ่มรายละเอียดในร่องลึกบนเส้นทางPrizmTMMX ยังถูกออกแบบมาสำหรับสภาพแสงที่หลากหลายและ เปลี่ยนแปลงฉับไวขณะอยู่ในร่มเงาสู่แสงแดดจ้าเพิ่มความได้เปรียบในการมองเห็นในทุกๆด้าน

ประโยชน์หลัก

-ช่วยแยกรายละเอียดในโทนสีน้ำตาลช่วยแยกแยะประเภทของพื้นผิวดินแห้งโคลนกรวด

-เพิ่มความแม่นยำในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว

-ออกแบบมาสำหรับสภาพแสงที่หลากหลาย รวมถึงการปั่นจักรยาน เข้าออกทั้งกลางแดดและในร่ม

บทที่6

Material (วัสดุ)

Plutonite® (พลูโตไนท์)

วัตถุดิบที่มีส่วนผสมเฉพาะหนึ่งเดียวที่Oakleyใช้ผลิตเป็นชิ้น เลนส์มีคุณสมบัติทนทานยืดหยุ่น สูง ไม่แตกเป็นขอบ คมมีน้ำหนักเบาและสามารถผสมสีสันให้ความสวยงามได้ดีทั้งยังง่ายต่อการคำนวณหาโฟกัสที่แม่นยำเป็นวัสดุที่มีลิขสิทธิ เฉพาะเลนส์ของOakleyเท่านั้น

Iridium® (อิริเดียม)

มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้ดี ให้สีสันที่หลากหลาย ใช้ในการเคลือบหน้าเลนส์ เพิ่มความสวยงามช่วยกระจายแสงให้ทั่วชิ้นเลนส์และเพิ่มคอนทราสให้ภาพทำให้ภาพมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นเลนส์ทุกสีที่มีชื่อIridium® ตามชื่อสีจะเคลือบ ด้วยIridium®ความหนา12ไมครอนทุกชิ้น

O-MatterTM (โอ-แมตเทอร์) มีคุณสมบัติในการทนทานต่อแรงกด น้ำหนักเบาทำให้สวมใส่ได้เป็นระยะเวลานานทนทานต่อปฏิกริยาเคมีเคลือบ

พ่นด้วยสีซึ่งไม่เป็นอันตรายสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายใช้ผลิตเฟรมที่ไม่ใช่เฟรมโลหะเกือบทุกรุ่นของOakley C-5TM (ซี ไฟว)

โลหะที่มีส่วนผสมเฉพาะสำหรับเฟรมที่เป็นโลหะของ Oakley น้ำหนักเบา ทนต่อแรงกด คืนรูปได้ ยืดหยุ่นได้ดี และ แทบไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกับสารเคมี

Carbon fiber (คาร์บอน ไฟเบอร์)

มีความแข็งแรงสูงต้านทานแรงดึงสูงน้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมีสูงทนต่ออุณหภูมสูง และอัตราการขยายตัวต่อความร้อนต่ำ มีความแข็งแรงกว่าเหล็กถึง5เท่าเมื่อเทียบโดยน้ำหนัก Oakleyใช้เป็นส่วนประกอบของเฟรมในหลายรุ่นทำให้แว่นมีน้ำหนักเบามากยิ่งขึ้น

Unobtainium®(อันออบเทนเนี่ยม)

วัสดุสังเคราะห์แบบเฉพาะของOakley ช่วยในการยึดเกาะเมื่อโดนความชื้นมีความยืดหยุ่นไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่แพ้ง่ายมีอายุการใช้งานประมาณ1ปี 1ปีครึ่ง

บทที่7 เส้นใย

เส้นใยมีหลายประเภทในบทนี้จะยกตัวอย่างเฉพาะเส้นใยที่เราใช้ผลิตเสื้อผ้าของOakleyเป็นหลัก โดยแบ่งเป็น ผ้าฝ้าย (cotton) ผ้าฝ้าย (Cotton) ผสม โพลีเอสเตอร์ (Polyesters) โพลีเอสเตอร์ล้วน (Polyesters) ผ้า Elastane

ผ้าฝ้าย (Cotton 100% ) ได้จากต้นฝ้ายในธรรมชาติ มีคุณสมบัติ ดูดซับ ความชื้นได้ดีเยี่ยม ทำให้ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดีเยี่ยมเนื้อผ้าจะมีลักษณะด้าน ยับง่ายรีดให้เรียบได้ยากแต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง(Finish) ทำให้ผ้าไม่ค่อยยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้นเมื่อซักบ่อยๆก็จะย้วย ซักได้ด้วยผงซักฟอกซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูงแมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับสายพันธ์ุความยาว และความเรียบของเส้นใย

Cotton 100% ในท้องตลาดได้แบ่งออก ดังนี้ 

- CottonOEไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใยฝ้ายเสื้อยืดcottonชนิดนี้จะมีความกระด้างกว่าอีกสองประเภทรวมถึงความเหนียวทนต่ำ ขาดง่ายเป็นผ้าCotton เกรดต่ำสุด และมีราคาถูกสุด

  • -  Cotton Semi ผ่านกระบวนผลิต เส้นด้ายโดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยครื่องจักร ทำให้ได้ผลผลิต เป็น เส้นด้ายใยสั้นที่มีขนาดใหญ่และมีความเนียนนุ่มและกระด้างในระดับปานกลาง

  • -  Cotton Combed ผ่านกระบวนผลิต เส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งมีกระบวนการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าแบบการสางทำให้ได้ผลผลิตเป็นเส้นด้ายที่มีขนาดเล็กและสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้ในเปอร์เซ็นที่มากกว่ารวมถึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยที่ยาวกว่า เมื่อนำมาทอเป็นผ้าผืนจึงเป็นผ้าcotton ที่เนื้อดีมีความนุ่ม และกระด้างในระดับต่ำ เหนียวทน ขาดยาก มีความมัน

ผ้าPolyester หรือใยสังเคราะห์

เป็นเส้นใยสังเคราะห์ผลิตจากPolyesterได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเลียม ผ้าใยสังเคราะห์หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าTKเนื้อผ้าจะมีลักษณะค่อนข้างมัน คุณสมบัติทั่วๆไปคือผ้าจะไมค่อยยับ อยู่ทรงไม่ย้วยสีไม่ตกแต่เสื้อที่ทำจากผ้าTKใส่แล้วจะร้อนเนื่องจากระบายอากาศไม่ดี จึงนิยมทอให้มีลักษณะเป็นรู เพื่อให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น เมื่อซักบ่อยๆ อาจจะขึ้นขุย ผ้าชนิดนี้จะทนทาน เหมาะที่จะใช้ในห้องแอร์ หรือในที่ที่ไมค่อยโดนแดด

เส้นใยผสม

เป็นเนื้อผ้าผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์(ตัวย่อว่า TC,CVC,CTCขึ้นกับเปอร์เซ็นต์การผสมของเส้นด้าย)

-เส้นด้ายTCเกิดจากการผสมกันระหว่างเส้นใยฝ้าย(Cotton)และเส้นใยโพลีเอสเตอร์Polyester)65%Polyester 35%Cottonในอัตราส่วนที่โพลีเอสเตอร์มากกว่าฝ้ายผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู(ทอแบบ juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง) เนื่องจากผ้าประเภท TC มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้าชนิดนีจึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยใน การระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่เนื้อผ้า TC จะมีลักษณะมัน (น้อยกวา่ TK) เนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่าง เส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ การสวมใส่จะสบายตัว และไม่ยับง่าย ความยืดหยุ่น ปานกลาง

- เส้นด้าย CVC

CVC เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester ผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติหรือผ้าฝ้าย และเส้นใยสังเคราะห์ มีคุณสมบัติ ในการระบายอากาศดีจากเส้นใยทั้งสองสำหรับเนื้อผ้าผสมCVCจะอยู่ที่ Cotton60-85% ต่อ Polyester15- 40% โดยคุณสมบัติจะแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ผ้า CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton60%+ Polyester 40%) ลักษณะโดยทั่วไปของเนื้อผ้ามีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับปานกลางการสวมใส่อยู่ทรงสบายตัว

CVCที่มีส่วนผสม(Cotton80%+Polyester20%)ความยืดหยุ่นจะสูงมากการระบายอากาศสูงเนื้อผ้าแน่น เนื้อผ้านุ่มใส่สบายดูดซับเหงื่อไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัวไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อนแต่จะฟูด้วยลักษณะของเส้นด้ายเหมาะสำหรับทำ เสื้อโปโล และ เสื้อยืด

Elastane(อีสเทนซึมซับของเหลวเช่นเหงื่อได้ดีเนื้อผ้าจะนุ่มไม่มีความกระด้างและมีการยืดหยุ่นได้ดีเป็นเส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่เมื่อยืดแล้วจะสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ โดยไม่เสียรูปทรง เมื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่มทำให้ เสื้อผ้าที่ผลิตได้มีความกระชับนุ่ม สวมใส่สบายทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษาดูปองท์(DuPont)เป็นผู้ผลิตรายแรกที่คิดค้นเส้นด้ายElastaneในปี1958ภายใต้ชื่อLycraซึ่งใช้ผลิตเป็นยางยืดสำหรับยึดชุดชั้นในสตรี 

ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.